วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

Value added "มูลค่าเพิ่ม"



"Wealthy @ Healthy" (3)
จากฉบับก่อนได้กล่าวถึงอัตราการหมุนเวียนเงินในกำปั่น วันนี้ต้องมองพิจารณาในกำปั่นอีกทีว่า สมมุติถ้าหยุดกิจการวันนี้เลย และรวมมูลค่าสินค้าเหลือหน้าร้าน จะมีมูลค่าเงินสดๆเท่าไหร่ แล้วตัดค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายออกไปให้หมด เช่นเจ้าหนี้การค้า ค่าจ้าง ฯลฯ ดูซิจะเหลือเงินสุทธิจริงๆเท่าไหร่ นั่นแหละจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่ง คือเงินเหลือ หรือ เงินออม สำหรับคนเริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นลูกจ้าง สิ่งแรกคงต้องเลือกงานที่เพียงพอให้เลี้ยงชีวิตให้อยู่รอดได้ และงานในหน้าที่มีความก้าวหน้าพอที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับชีวิตด้วย คงไม่พ้นงานดีเงินเดือนสูง ต้องสะท้องศักยภาพของแรงงานด้วยครับ อย่าลืมว่า จำนวนผลผลิตแต่ละหน่วยที่แรงงานผลิตให้กับนายจ้าง(Marginal product of labor) นายจ้างนำออกไปขาย อย่างน้อยรายได้ที่ได้จากการขายสินค้าจะเพียงพอกับต้นทุนการผลิตหน่วยนั้นๆ เช่น การผลิตดาบซามูไร (Ka ta na) ของประเทศญี่ปุ่น เล่มๆหนึ่งใช้ระยะเวลานานร่วมปี ราคาดาบซามูไร ที่ทำจากช่างฝีมือเอกในการตีดาบมีราคาสูงลิ่ว 7 หลัก เมื่อเทียบกับดาบที่ผลิตจากโรงงานในประเทศกัมพูชาราคาประมาณ 2 หมื่นถึง 1 แสนบาท ผู้เขียนเองก็ไม่เคยไปดูเขาตีมีดตีดาบที่ญี่ปุ่นหรอก เคยไปดูที่บ้านร่องไฮ แม่นาเรือนี่แหละ ซื้ออีโต้มาตัดไม้ เห็นเขาทำด้วยความอุสาหะดี แต่ราคาไม่สูง ราวๆ 150 ถึง 200 บาท ช่วงวันเวลานี้ของนิสิตเปรียบได้ด้วยกับการฝึกฝนวิชาการตีดาบ เรียนรู้ทักษะ สะสมประสบการณ์ นานับประการ พอสำเร็จการศึกษาออกไป ก็เลือกเอาว่านิสิตความสามารถจะตีดาบแบบไหน ถ้าตีดาบซามูไร ชีวิตนี้ก็ตีไม่กี่เล่มหรอก ก็เกิดความมั่งคั่ง

Econ Idea


ความจนของเกษตรกรไทย คงไม่พ้นโทษราคาผลิตราคาเกษตรตกต่ำ และต้นทุนการผลิตสูง อาทิเช่นค่าปุ๋ย ยา แรงงาน น้ำมัน ราคาสูงขึ้น อะไรเป็นสาเหตุหรือ ? ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของ อุปทานของสินค้า ที่มีมากมายเกินกว่าอุปสงค์ของสินค้าจะดูดซับได้หมด รู้ทั้งๆรู้ว่าต้องมีผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาด อาทิเช่น เงาะ ทุเรียน มังคุด ลิ้นจี่ ลำไย ฯลฯ แต่เกษตรกรคงยังปลูก นักเศรษฐศาสตร์พยายามอธิบายพฤติกรรมการผลิตของสินค้าเกษตรที่มีรอบฤดูกาลผลิต อาศัย เวลา น้ำมันฝน อุณหภูมิ จนถึงรอบเก็บเกี่ยวผลผลิต ด้วย “ทฤษฏีใยแมงมุม” ว่า เกษตรกรจะใช้ราคาที่เผชิญอยู่ในปีปัจจุบัน เพื่อกำหนดปริมาณการผลิตในรอบการผลิตถัดไป เช่น ถ้า ณ ฤดูกาลนี้ลิ้นจี่มีราคาแพง ชาวสวนจะตั้งธงในใจว่าฤดูกาลถัดไปลิ้นจี่ก็จะราคาแพงเช่นกัน จึงบำรุงต้นใส่ปุ๋ยตัดแต่งกิ่ง ฉีดพ่นฮอร์โมนเร่ง พอถึงระยะเวลาเก็บเกี่ยวปริมาณผลผลิตของชาวสวนผลิตได้ตามคาด ลูกใหญ่ สีสวย ผลผลิตเยอะ เช่นเดียวกับผลผลิตของชาวสวนคนอื่นๆ แต่ราคาที่เขาได้รับกลับต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ประสบภาวะขาดทุน ประสบการณ์ในปีนี้เจ็บปวดยิ่งนัก ชาวสวนเจ็บและจำ ปีถัดไปเขาจึงเลิกสนใจบำรุงต้นลิ้นจี่ปล่อยตามธรรมชาติ ปรากฏว่าผลผลิตออกน้อย ลูกไม่สวย ดำๆด่างๆ เช่นเดียวกับชาวสวนคนอื่นๆ แต่ราคาที่ได้กลับดีกว่าในปีที่ผ่านมา... นี่จึงเป็นวงจรหมุนไปเรื่อยๆ นักเศรษฐศาสตร์จึงเอามาอธิบายดังแสดงด้วยภาพต่อไปนี้

โดยดุลยภาพระยะยาวของปริมาณผลผลิตและราคาจะวิ่งเข้าสู่ดุลยภาพที่ Q3 และ P3 ดุลยภาพของ CobWeb จะมีด้วยกับ 3 แบบ คือวิ่งเข้าสู่ศูนย์กลางดังภาพ, วิ่งวนออกไปเรื่อยไม่มีดุลยภาพ และวิ่งวนไปเรื่อยๆ ไม่เข้าไม่ออก... ประเภทกลื่นไม่เข้าคลายไม่ออก ครับ

ไม่มีความคิดเห็น: