วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

Why over weight? "อ้วนทำไมเรอะ"

"Cycling and fun" (2) อ้วนทำไม อะไรเรอะ


ถ้าคนเราแข็งแรง เพราะ อาหาร อากาศ ออกกำลังกาย และ อุจาระ สมดุล (4อ) มีเงินทองใช้จ่ายเพียงพอกับการดำรงชีวิต เพราะการวางแผน นี่แหละความสุขครับ “ทำไมคนส่วนใหญ่ใช้เหตุผลว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย” แต่ผมเฉลยว่า “คนส่วนมากไม่มีเป้าหมายเพื่อการออกกำลังกายครับ” และการใช้เหตุผลเพื่อสุขภาพแข็งแรงไม่สามารถใช้เป็นแรงจูงใจในการออกกำลังกายสม่ำเสมอได้ คำถามข้อ 1 “ทำไมคนถึงอ้วน” เหตุผลคือความไม่สมดุลของ ระบบการเผาผลาญอาหาร พฤติกรรมการบริโภคและดำเนินชีวิต เมื่อสมัยเป็นเด็กระบบการเผาผลาญอาหารดีเยี่ยม เซลแบ่งตัว และเซลขยายตัว นำสู่การเติบโตของร่างกายสู่วัยรุ่น วัยนี้กินเที่ยวกับเพื่อนฝูงสนุกสนานข้ามวัน นอนหลับเพียง 2-3 ชั่วโมง ร่างกายกลับสดชื่น เที่ยวข้ามวันคืนได้อีก ระบบการเผาผลาญดี และมีกิจกรรมเยอะ พอย่างเข้าสู่วัยเรียนจบ หางานทำ ร่างกายไม่เติบโตแล้ว กล้ามเนื้อเติบโตเต็มที่ เซลใหม่ลดจำนวนการสร้าง เซลเก่าเริ่มเสื่อมถอย เพื่อนฝูงแยกย้าย กิจกรรมน้อยลง มุ่งทำงานสร้างตัว พฤติกรรมการกินเหมือนเดิม กระเพาะหย่อน(กระเพาะคลาก) กว่าสมัยวัยรุ่น กินไม่อิ่มสักที การเผาผลาญสารอาหารของเซลลดลง นำสู่การสะสมของไขมัน ตามกล้ามเนื้อ เห็นชัดเริ่มจากบริเวณหน้าท้อง ไปทั่วร่างกาย รวมถึงผนังของเส้นเลือด คงพอจิตนาการออกน๊ะครับ คำถามข้อที่ 2 “การเผาผลาญสารอาหารและการออกกำลังกายมีความสัมพันธ์อย่างไร” ผมขอออกตัวก่อนเลยว่า สิ่งที่นำเสนอนี้เป็นความเชื่อ และความศรัทธา ส่วนบุคคล ที่พูดคุยกับนักโภชนาการ นักวิทยาศาสตร์การกีฬาครับ เมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกายเพิ่มขึ้น เซลกล้ามเนื้อจะเพิ่มการเผาผลาญสารอาหารเพื่อให้ได้พลังงานในการทำกิจกรรม ในช่วงแรกของการออกกำลังกาย เบาสู่หนักปานกลาง(ถ้าเทียบกับการเดินเร็วและสามารถสนทนาระหว่างเดินได้) เซลจะเผาผลาญสารอาหารรแบบไม่ใช้ออกซิเจน ประมาณระยะ 15 นาทีแรกๆ ที่เรียกว่า แอนาโรบิก (Anaerobic) โดยดึงพลังงานจากสารอาหารที่เราบริโภคในแต่ละวันจนหมด ที่อยู่กระแสเลือดส่วนใหญ่(ใครกินมากต้องใช้เวลาเยอะหน่อย) ถัดมาเซลจะเผาผลาญสารอาหารโดยกระบวนการใช้ออกซิเจน แบบแอโรบิค (Aerobic) และสัมพันธ์กับความหนักแบบปานกลางสม่ำเสมอยาวนานกว่า 30 นาที สารอาหารที่ถูกนำมาใช้พวกแรกคือแป้ง น้ำตาล (คาร์โบไฮเดรท) ถัดมาคือไขมัน และสุดท้ายโปรตีน(ผลคือจะปวดกล้ามเนื้อเนื่องจากกรดแลคติก) กระบวนการนี้จะดำเนินการสูงสุดช่วง 30 นาทีแรกของการออกกำลังและลดลงเรื่อยๆอาจใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงของแต่ละบุคคล (ใครจะลดความอ้วนได้หรือไม่ได้ก็อยู่ในช่วงนี้) สังเกตุอาการเหนื่อย หายใจทางปาก เพราะว่าเซลในร่างกายต้องการออกซิเจนมากในการสันดาปให้ได้พลังงาน เกิดสารเคมี อาทิเช่น ความร้อน น้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ และกรดแลคติด ส่วนของกล้ามเนื้อที่เผาผลาญได้ดี(มีมัดกล้ามเนื้อมาก)คือ ขา แขน อก และช่วงกล้ามเนื้อหน้าท้อง (ลดยากสุดเพราะเคลื่อนไหวน้อยสุด) สรุปว่า จะลดความอ้วน 1. เร่งเซลเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกินในร่างกาย โดยการออกกำลังกายไม่ต่ำกว่าวันละ 45 นาทีแบบหนักปานกลางสม่ำเสมอ (นี่เป็นของดีของการปั่นจักรยานมีระยะช่วง Aerobic นาน) 2. ลดการสะสมของแคลอรี่ส่วนเกินจากบริโภค ได้แก่ คาร์โบไฮเดรท ไขมัน เพิ่มอาหารกากใยทดแทน

คำถามข้อที่ 3 “เคยไหมที่เบื่อตนเอง ที่อุ้ยอ้าย อึดอัน หงุดหงิด เดินเหินใกล้ๆแล้วเหนื่อย ไม่อยากไปไหน จะนอนเฉยๆ” โธ่เอ๋ยจะอยู่กับสิ่งนี้ไปตลอดชีวิตน๊ะ ถ้าวันไหนเจ็บป่วยจะเป็นภาระของคนอื่นๆอีก... ถ้ามีอาการอย่างนี้เริ่มเลยครับ ไปหากลุ่มบุคคลที่ออกกำลังกายเป็นประจำเลยครับ อย่าเริ่มเพียงลำพังคนเดียวเดี๋ยวจะ “พัง” เริ่มจากครอบครัว พากันออกไปนอกบ้าน สวนสาธารณะ ที่จังหวัดพะเยา ใครไม่รู้จะไปไหนตอนเย็น มาปั่นจักรยานกับผม และเด็กๆ นัดตรง 4 แยกไฟแดง ป่าแดง (โรงพยาบาลพะเยาราม) 17.00 น. ปั่นจันทร์-ศุกร์ เมื่อพบคนกลุ่มใหม่ คุยเรื่องใหม่ เปลี่ยนเรื่องซ้ำซากเบื่อหน่าย จากการทำงาน ถอดทิ้งไว้ เป็นลุงแก่ๆที่เด็กอายุ 12 ขวบเรียก อย่างไรลุงก็ยังไหวปั่นจักรยานตามหลานๆได้ นี่เป็นการสร้างแรงจูงใจ เดี๋ยวพรุ่งนี้ลุงจะแซงให้ดู (ปัจจุบันยังแซงไม่ได้เลย)

คำถามข้อที่ 4 “จะวางแผนการออกกำลังกายอย่างไรให้มีผลต่อการเผาผลาญการลดน้ำหนัก” เรื่องนี้ขอใช้ประสบการณ์ส่วนตัว แล้วให้นำปรับใช้ ควรแบ่งช่วงการออกกำลัง 4 ช่วง ช่วงที่ 1 การอบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย (Warm Up) เริ่มจากยืดแข้งขา มือ แล้วขึ้นควบจักรยานปั่นช้าๆความเร็วประมาณ 10-15 km/h สัก 10 นาที ช่วงที่ 2 เริ่มช่วง Anaerobic Phase ด้วยความเร็วไม่น่าเกิน 25 km/h ประมาณ 15 นาที น้ำหนักเกียร์ปานกลาง ช่วงที่ 3 กระตุ้นให้เกิดช่วง Aerobic Phase เร่งเร็วขึ้น 28-35 km/h หนักปานกลาง ประมาณ 30-45นาที อาจเร่งความเร็วระยะสุดท้าย ประมาณ 5 นาที กระตุ้นหัวใจให้เต้นเร็วและแรง (ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับ) ช่วงที่ 4 Warm Down 15-30 นาที รวมเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 30-35 Km ต่อวัน ช่วงที่ 3 นับว่ามีผลการต่อการลดน้ำหนักมาก เพราะร่างกายจะเผาผลาญสารอาหารได้มากกว่าช่วงอื่นๆ ถ้าใครยืดช่วง 3 ให้ยาวนานจะกลายเป็นนักกีฬาในที่สุด เคยถามไหมว่า ทำไม “ฟุตบอลใช้เวลาแข่งขัน 90 นาที”

คำถามข้อที่ 5 “เวลาว่างคนอื่นไม่ว่าง เวลาไม่ว่างคนอื่นว่าง” ปั่นคนเดียวเบื่อ แล้วจะทำอย่างไร ล๊ะ เดี๋ยวจะเฉลย

ไม่มีความคิดเห็น: